Jaeger LeCoultre AMVOX3 Tourbillon GMT

JLC เป็นอีกแบรนด์ที่ Jr. ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาชื่นชอบนาฬิกาที่เหนือกาลเวลา และสไตล์ของ JLC ก็เป็นแบบนั้น จึงทำให้เขามีนาฬิกาของแบรนด์ JLC ไว้ในครอบครองหลายเรือน Jaeger-Lecoultre Amvox 3 Tourbillon GMT เป็นนาฬิกาที่โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ใส่ไปโปรโมตภาพยนตร์ Iron Man 2 ในเมืองต่าง ๆ ซึ่ง Amvox 3 เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์นาฬิกา Jaeger-Lecoultre และ Aston Martin บริษัทผลิตรถยนต์สปอร์ตหรู เพื่อผลิตนาฬิกาที่มีนวัตกรรมล้ำสมัย โดยการนำกลไกทูร์บิญงมาใช้ในนาฬิกาสปอร์ต ตัวเรือนเซรามิกแบบทรงกลมรุ่นแรกของแบรนด์ ขนาด 44 มิลลิเมตร หน้าปัดสีดำโปร่งโชว์ให้เห็นกลไกทูร์บิญง มาพร้อมตัวเลขบอกเวลาสีขาวขนาดใหญ่ที่เคลือบสารเรืองแสงเอาไว้ เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ในที่มืด ตัวเรือนจับคู่กับสายหนังลูกวัวสีดำที่เข้ากันเป็นอย่างมาก ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Caliber 988 และสามารถสำรองพลังงานได้ 48 ชั่วโมง ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 300 เรือนเท่านั้น ราคาประมาณ 2,808,504 บาท

Rolex “Hulk” Submariner ref. 116610LV

Submariner Hulk เป็นนาฬิกาคลาสสิก เปิดตัวในปี 2010 เป็นรุ่นที่ถูกเปิดตัวขึ้นแทน "Kermit" มีชื่อเล่นที่เรียกกันในวงการนาฬิกาว่า “The Hulk” เป็นโมเดลที่มีฟังก์ชัน Date-displaying กรอบหน้าปัดเป็นแบบเซรามิก (Ceramic Bezel) สีเขียวสะดุดตาเช่นเดียวกันกับสีพื้นหน้าปัด หลักชั่วโมงทำจากทองคำขาว 18 ct. ตัวเรือนและสายนาฬิกาผลิตมาจาก Stainless Steel 904L มีความทนทานต่อการสึกกร่อนสูงและให้ความเงางามเป็นพิเศษ

ซึ่งเรือนที่ Jr. ใส่ มีชื่อว่า “Ghost” เป็นเรือนที่สั่งผลิตพิเศษโดย Bamford Watch Department ที่ทำหน้าที่ตกแต่งนาฬิกาแบรนด์ระดับไฮเอนด์ตามใจลูกค้า ซึ่งตัวเรือน เม็ดมะยม และสร้อยข้อมือเคลือบด้วย PVD เพื่อให้ลุคที่มืดหน่อย เข็มชั่วโมงถูกเปลี่ยนเป็นโทนสีเทาเข้มพร้อมเส้นขอบสีขาว ตัวเลขสีขาวบนขอบหน้าปัดใช้วัสดุ Cerachrom ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตามแบบฉบับของ Jr. ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 518,000 บาท

Urwerk UR-110RG

Urwerk UR-110RG เป็นนาฬิกาที่โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้สั่งทำสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยอิงสีโทนเดียวกับไอรอนแมน ด้วยขอบหน้าปัดสีโรสโกลด์ มาพร้อมตัวเลขสีเหลืองสดใส ซึ่งโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้ใส่นาฬิกาเรือนนี้ไปงานเปิดตัวภาพยนตร์ต่าง ๆ ด้วย และที่สำคัญเมื่อปี 2017 ในภาพยนตร์ Spiderman : Homecoming ก็มีฉากที่ Tony Stark สวมนาฬิกา Urwerk UR-110 RG ด้วย ซึ่งเป็นนาฬิกาที่มีรูปทรงตัวเรือนแปลกตาและโดดเด่นเป็นอย่างมาก ตัวเรือนขนาด 47 x 51 x 16 มิลลิเมตร ทำจากไททาเนียมเกรด 5 ขอบหน้าปัดสีแดง 5N จับคู่กับสายหนังจระเข้สีดำ หน้าปัดแบบเปิดให้เห็นกลไก โดดเด่นด้วยการบอกเวลาจากการโคจรของดาวเทียมที่ด้านขวาของนาฬิกา ตั้งแต่ 0 ถึง 60 นาที ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Urwerk caliber 9.01 ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้ที่ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้สวมใส่ ถูกนำไปประมูลเพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมองค์กร Manusodany ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ดูแลโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ในหมู่เด็กด้อยโอกาสในประเทศเฮติ โดยปิดประมูลที่ 150,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,800,000 บาท

De Bethune DB28 Tourbillon

De Bethune เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่มีเทคโนโลยีและศิลปะการผลิตนาฬิกาในระดับขั้นเทพ เพราะมีดีไซน์อันโดดเด่นที่ไม่เหมือนใครจนได้รับรางวัลมาแล้วถึง 3 รางวัล คือรางวัล “Marca en Ascenso” (รางวัลแบรนด์ดาวรุ่ง) ในปี 2013 และอีก 2 รางวัลในปี 2016 คือ “Best Tourbillon Watch” และ “Best Design” (ในรุ่นสีน้ำเงิน) ด้วยความที่แบรนด์รังสรรค์นาฬิกาออกมาไม่เหมือนใคร ทำให้ Robert Downey Jr. สะดุดตาในนวัตกรรมของนาฬิกา จนต้องมีไว้ในครอบครองอย่างรุ่น De Bethune DB28 Tourbillon ที่เป็นหนึ่งในนาฬิกาทูร์บิญที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในตลาดนาฬิกาสวิส ซึ่งจะเห็นว่า Jr. ใส่นาฬิกาเรือนนี้บนข้อมือของเขาผ่านสื่อต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง ตัวเรือนเป็น Rose Gold ขนาด 42.6 มิลลิเมตร มาพร้อมสายหนังจระเข้สีดำที่เข้ากับตัวเรือนได้เป็นอย่างดี ทำงานด้วยกลไกไขลาน Caliber DB2019 ราคา 195,000 สวิสฟรังก์ หรือประมาณ 6,900,000 บาท

Greubel Forsey GMT Tourbillon

Robert Downey Jr. ได้ใส่นาฬิกา Greubel Forsey GMT Tourbillon ในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ Avengers : Infinity War นาฬิกาเรือนนี้โดดเด่นด้วยการแสดงเวลา 24 ชั่วโมง และสามารถบอกเวลาได้หลายไทม์โซนพร้อมกัน อีกทั้งยังมีหน้าปัดย่อยพร้อมลูกโลกที่หมุนไปรอบ ๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อบอกเวลาทั่วโลก ในขณะที่ลูกโลกหมุนตัวเลขชั่วโมงก็จะสว่าง และยังเลื่อนสเกลสีดำบริเวณรอบของหน้าปัดย่อยออกมาตรงวงแหวนเพื่อบ่งบอกเวลากลางคืนได้อีกด้วย นาฬิกาเรือนนี้มีราคาอยู่ที่ 605,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 19,723,000 บาท

Double Tourbillon 30° Technique watch from Greubel Forsey

Robert Downey Jr. สวมใส่นาฬิกา Double Tourbillon 30° Technique จาก Greubel Forsey ในงานเดินพรมแดงเพื่อเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเค้าอย่าง Avengers ภาค Endgame และสวมใส่มันขณะทำการประทับรอยมือที่โรงละคร TCL Chinese ของฮอลลีวูด (เป็นการประทับรอยมือบนคอนกรีตเปียก ที่ดาราดังหลายคนก็เคยประทับรอยมือไว้ เริ่มประทับรอยแรกเมื่อปี 1927) Greubel Forse เป็นแบรนด์ที่รู้จักกันในด้านการผลิตนาฬิกาในจำนวนที่จำกัด (และผลิตยากมาก) Double Tourbillon 30° Technique เป็นการดีไซน์ตัวเรือนที่คงความเรียบง่ายทำมาจากไทเทเนียม ADLC ที่โดดเด่นในเรื่องความทนทาน มีทูร์บิญองสองตัวช่วยให้สำรองพลังงานได้สูงสุด 120 ชั่วโมง การตกแต่งภายในหน้าปัดมีความน่าสนใจในแง่ความความลึก-ตื้นของกลไกเป็นอย่างมาก และมองเห็นกลไกการทำงานภายในได้อย่างชัดเจน ทำให้นาฬิกาเรือนนี้เป็นที่สนใจของนักสะสมหลายคน ราคาอยู่ที่ 560,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18,256,000 บาท

Patek Philippe Nautilus Moonphase ref. 3712

นาฬิกาอีกเรือนหนึ่งที่มีคุณค่าสำหรับโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เป็นอย่างมาก นั่นก็คือ Patek Philippe Nautilus Moonphase ที่ภรรยาของเขามอบให้เป็นของขวัญวันเกิด ซึ่งสำหรับเขาแล้ว นาฬิกาเรือนนี้เป็นนาฬิกาที่มีเสน่ห์ที่สุดที่ผู้ชายมีได้ Patek Philippe Nautilus Ref. 3712/1A เปิดตัวในปี 2005 ซึ่งต่อยอดมาจากรุ่นดั้งเดิมที่ถูกคิดค้นโดย Gerald Genta ในปี 1976 ณ เวลานั้น Nautilus 3712 ถือว่าเป็นรุ่นที่ซับซ้อนที่สุดของคอลเลกชันเลยก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านั้น Nautilus มีเพียงแค่ฟังก์ชันวันที่ Nautilus 3712 ตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 42 มิลลิเมตร จับคู่กับสายนาฬิกาสเตนเลสสตีล มาพร้อมกลไกไขลานอัตโนมัติ โดดเด่นด้วยฟังก์ชันข้างขึ้นข้างแรม เป็นนาฬิกาสปอร์ตที่มีระดับและหายากมาก เนื่องจากผลิตในจำนวนที่น้อยกว่า 900 เรือนเท่านั้น ราคา 4,110,00 บาท

Baume & Mercier Hampton City

ปิดท้ายด้วย Baume & Mercier เป็นนาฬิกาอีกเรือนในคอลเลกชันของ Robert Downey Jr. ที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่ เพราะนาฬิกาแบบวินเทจเรือนนี้เป็นของคุณปู่ของเขาที่ผ่านการจำนำมาแล้วเพื่อนำไปเปิดร้านขายยา แต่สุดท้ายนาฬิกาเรือนนี้ก็กลับมาอยู่ในมือคุณปู่อีกครั้งและถูกส่งต่อให้ Robert Downey Jr. ถึงแม้ราคาเรือนนี้อาจจะไม่ได้แพงมาก แต่ก็เป็นนาฬิกาที่มีคุณค่าทางจิตใจและควรค่าแก่การเก็บไว้ในคอลเลกชัน Baume & Mercier เป็นแบรนด์เก่าแก่และหายากอีกแบรนด์หนึ่งของสวิสเลยก็ว่าได้ มีความเป็นเลิศในด้านกลไก และหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร มีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 40 x 42 มิลลิเมตร เหมาะกับข้อมือผู้ชายที่ชอบใส่นาฬิกาแบบเต็มข้อ มาพร้อมกับสายสตีลเรียงตัวสวยงามแนววินเทจ ทำงานด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ BM72671 ราคาอยู่ที่ 2,495 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 80,904 บาท